ข้อควรรู้-ปฏิบัติ ก่อนเข้าชมนิทรรศการพระเมรุมาศ 2-30 พ.ย.นี้
ข้อปฏิบัติ เตรียมพร้อมก่อนเปิดให้เข้าชมนิทรรศการงานพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงร.9 ระหว่างวันที่ 2 -30 พ.ย.นี้
จากการประชุมคณะกรรมการฝ่ายจัดนิทรรศการงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ประชุมได้หาแนวทางและการดำเนินงานเตรียมพร้อมการจัดนิทรรศการภายหลังพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ โดยจุดประสงค์หลักเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผ่านพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ เรื่องราวของโครงการในพระราชดำริ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนได้ชื่นชมความงดงามของพระเมรุมาศ และอาคารประกอบ ณ บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง โดยได้กำหนดเนื้อหานิทรรศการซึ่งจะใช้พื้นที่ทั่วทั้งบริเวณมณฑลพิธี ออกเป็น 3 ส่วน ดังนี้
1. นิทรรศการโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ บอกเล่าเรื่องราวผ่านงานภูมิทัศน์ ได้แก่ การชมแปลงนาข้าวและบ่อแก้มลิงบริเวณทางเข้าด้านทิศเหนือของมณฑลพิธี รวมถึงภาพจิตรกรรมฝาผนัง 3 ภาพใหญ่ ภายในพระที่นั่งทรงธรรม ซึ่งแสดงให้เห็นโครงการพระราชดำริที่สำคัญในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย
2. นิทรรศการเกี่ยวกับการจัดสร้างพระเมรุมาศ สิ่งปลูกสร้างประกอบพระเมรุมาศ และการบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ เป็นการบอกเล่าเรื่องราวผ่านสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ภายในบริเวณมณฑลพิธี และที่ศาลาลูกขุนทั้ง 6 หลัง จะมีนิทรรศการเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดการออกแบบและขั้นตอนการผลิตงานสถาปัตยกรรม จิตรกรรม ประติมากรรม และงานประณีตศิลป์ ตลอดจนงานบูรณปฏิสังขรณ์ราชรถและพระยานมาศ
3. นิทรรศการพระราชประวัติและพระราชกรณียกิจ จะจัดแสดงบนพระที่นั่งทรงธรรม กำหนดให้ประชาชนเดินชมเป็นทิศทางเดียว จากปีกอาคารด้านทิศใต้ ผ่านโถงกลางและจบที่ปีกอาคารด้านทิศเหนือ ประกอบด้วยนิทรรศการย่อย 5 ส่วน คือ นิทรรศการพระราชประวัติตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ นิทรรศการจากหนังสืออุปกรณ์ทรงงาน (ชุดที่ 1) นิทรรศการธรรมราชา พระมหากษัตริย์ผู้ทรงทศพิธราชธรรม นิทรรศการจากหนังสืออุปกรณ์ทรงงาน (ชุดที่ 2) และนิทรรศการสืบสานสมานมิตร เล่าเรื่องการเสด็จพระราชดำเนินไปเจริญสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ
ในการนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จเป็นประธานเปิดนิทรรศการ ในวันที่ 2พฤศจิกายน 2560 โดยนิทรรศการดังกล่าวจะจัดเปิดให้เข้าชม ตั้งแต่วันที่ 2-30 พฤศจิกายนนี้ ตั้งแต่เวลา 07.00-22.00 น.
รายละเอียดการเปิดให้เข้าชมนิทรรศการพระเมรุมาศ
เบื้องต้นจะเปิดให้เข้าชมอย่างอิสระ รอบละ 5,000 คน รองรับประชาชน ได้วันละ 104,000 คน โดยแบ่ง เป็นกลุ่มภิกษุ สามเณร 500 รูปต่อวัน ผู้พิการทุกประเภท 500 คนต่อวัน นักท่องเที่ยว 8,000 คนต่อวัน นักเรียน นักศึกษา 15,000 คนต่อวัน และประชาชนทั่วไป80,000 ต่อวัน กำหนดเวลาเข้าชมรอบละ 1 ชั่วโมง แบ่งเป็น ให้ประชาขนถ่ายภาพที่ระลึกบริเวณ ถนนเส้นกลางทางเข้าพระเมรุมาศ ซึ่งจะเห็นภาพแปลงนาเลขเก้าไทย และภาพภูมิทัศน์ส่วนต่างๆ ของพระเมรุมาศในมุมกว้าง 15 นาทีจากนั้น จะให้เข้าชม พื้นที่ด้านใน 45 นาที โดยให้เข้าชมได้อย่างอิสระ
ในส่วนของพระเมรุมาศจะเปิดให้ขึ้นลงได้ 2 ด้าน ส่วนพระที่นั่งทรงธรรม ซึ่งจัดแสดงพระราชประวัติและประราชกรณียกิจ รวมถึงยังมีภาพจิตรกรรมโครงการ ในพระราชดำริ ให้ชมทั้ง 3 ด้าน ส่วนอาคารประกอบอื่น ๆ จะจัดแสดงการจัดสร้างพระเมรุมาศ งานประณีตศิลป์และงานจิตรกรรมประเภทต่าง ๆ ที่สำคัญ ครั้งนี้ยังอำนวยความสะดวกให้กับผู้พิการ จัดให้มีนิทรรศการสัมผัส พร้อมเสียงบรรยายเพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจถึงความเป็นมาของการจัดสร้างพระเมรุมาศและอาคารประกอบทั้งหมด ถือเป็นความภาคภูมิใจ ทั้งนี้ก่อนหมดเวลา เข้าชม 5 นาที จะมีสัญญาณแจ้งหมดเวลาเข้าชม เพื่อเปิดให้รอบต่อไปได้เข้า โดยตลอดระยะเวลาในการจัดแสดงนิทรรศการ 29 วัน คาดว่าจะมีประชาชนเข้าชมทั้งหมด กว่า 3 ล้านคน
หน่วยจุดคัดกรองดูแลประชาชนที่เข้าชมนิทรรศการ
ทางผู้รับผิดชอบเตรียมความพร้อมอำนวยความสะดวกผู้เข้าชมอย่างเต็มที่ โดยมีจุดคัดกรอง 5 จุด โดยประชาชนทั่วไปให้เข้าในจุดคัดกรอง 3 จุด คือบริเวณหน่วยบัญชาการรักษาดินแดน ท่าช้าง และพระแม่ธรณี บีบมวยผม ส่วนผู้พิการเข้าตรงจุดคัดกรองหลังกระทรวงกลาโหม และพระภิกษุสามเณร เข้าทางด้านหน้ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ข้อปฏิบัติสำหรับการเข้าชมนิทรรศการพระเมรุมาศ
สำหรับการแต่งการเข้าชม ขอความร่วมมือ ประชาชน แต่งชุดสุภาพ เช่นเดียวกับการเข้าชมวัดพระศรี รัตนศาสดาราม โดยงดเว้นสายเดี่ยว กางเกงขาสั้น และเสื้อแขนกุด ซึ่งประชาชนสามารถเข้าชมนิทรรศการได้ตั้งแต่เวลา 07.00-22.00น. โดยมีการเตรียมพื้นที่ ให้เข้าชม แบ่งเป็นเวทีมหรสพ และนิทรรศการพระเมรุมาศ ซึ่งผู้ประสงค์จะเข้าชมนิทรรศการ สามารถเข้าคิวรอตรงจุดพักรอบริเวณเต็นท์ที่จัดเตรียมไว้ เพื่อรอคิวเข้าชม ทั้งนี้ การเข้าชมจะใช้แนวปฏิบัติเดียวกับการกราบถวายบังคมพระบรมศพ โดยจะจัดเป็น 4 แถว
การอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของปชช.ที่เข้าชมนิทรรศการ
การอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการเดินทางนั้น องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ จะจัดรถโดยสารให้บริการฟรีใน 6 เส้นทาง ตั้งแต่เวลา 05.00-23.00 น. เส้นทางละ 10 คัน รอบละ 60 คัน ได้แก่ 1. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิสนามหลวง 2. หัวลำโพง-สนามหลวง 3. วงกลมรอบเกาะรัตนโกสินทร์-สนามหลวง 4. เอกมัย-สนามหลวง 5. สายใต้ใหม่-สนามหลวง และ 6. หมอชิต-สนามหลวง ส่วนทางเรือจะให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00-22.30 น. ที่ท่านิเวศน์วรดิฐ และท่าราชนาวิกสภา ขณะเดียวกันจะประสานกรมเจ้าท่า ขอความร่วมมือผู้ให้บริการเรือด่วน เรือเมล์ขยายเวลารองรับการเดินทางของประชาชนด้วย
ส่วนการจัดแสดงมหรสพ ที่ประชุมได้กำหนดแนวทางการแสดงมหรสพ ซึ่งมีการนำนักแสดง และนักดนตรีจากสำนักการสังคีต สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กรมส่งเสริม วัฒนธรรม รวมทั้งวงดนตรีจากทหาร 4 เหล่าทัพ และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาจัดการแสดงภายในบริเวณพระเมรุมาศ โดยวางแนวทางเบื้องต้น มีการแสดงมหรสพ และการแสดงชุดต่างๆ เวลา 18.00-22.00 น. และจะมีการประโคมดนตรี วงบัวลอย บริเวณศาลาลูกขุน เวลา 08.00-17.00 น.
นอกจากนี้ ทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ จะมีการแสดงโขนหน้าพระที่นั่งทรงธรรม เพื่อให้ผู้เข้าชมนิทรรศการ ได้ซึบซับบรรยากาศเสมือนวันถวายพระเพลิงพระบรมศพ
|